หัวข้อ

ram transistor zener diode กราวนด์ดิจิตอล (Digital Ground) คืออะไร? การคำนวณเลขฐาน การต่อสัญญาณแบบบาลานซ์(Balanced System) การทำงานเครื่องขยายเสียงคลาสดี การนำไมโครคอนโทรลเลอร์ไปใช้งาน การประยุกต์ใช้ ESP32 และ ESP8266: ก้าวสู่โลก IoT การเข้าโหมดเซอร์วิส การเปลี่ยนฐานของระบบเลข การเลือกลำโพง การเลือกแอมป์ให้กับลำโพง การใช้งาน Arduino Uno ร่วมกับ เซอร์โวมอเตอร์ การ์ดแสดงผล กำลังวัตต์กับความดัง คลาสต่างๆ ความเปลี่ยนแปลงของเครื่องเสียงยุคดิจิตอล ค่าความเพี้ยนกับค่าS/N จอมอนิเตอร์ ซีดีทรานสปอร์ต(CD TRANSPORT) ตัวต้านทานปรับค่าได้(Variable Resistor) ตัวต้านทานและการใช้งาน ตัวเก็บประจุ(Capacitor ทรานซิสเตอร์ ทำไม?แรมบางรุ่นถึงแพงกว่าเมนบอร์ด ทิศทางการเติบโตตลาด AMD ในปัจจุบัน ทีวีสี ภาคต่างๆของเครื่องขยายเสียง รหัสไบนารี่(Binary Codes) ระบบควบคุมการชาร์จแบตเตอรี่จากโซลาร์เซลล์ ระบบเลขฐาน ระบบโซลาร์เซลล์ ระบบโซลาร์เซลล์แบบ Off-Grid และ On-Grid อินเวอร์เตอร์ที่ใช้ในระบบโซลาร์เซลล์ อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ระบายความร้อนในคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ฮาร์ดดิสก์ หรือ SSD เขียนโปรแกรม Arduino ด้วยภาษาซี เขียนโปรแกรม Arduino ด้วยภาษาซี 2 เขียนโปรแกรม Arduino ด้วยภาษาซี 3 เขียนโปรแกรม Arduino ด้วยภาษาซี คำสั่งพื้นฐานที่ควรเรียนรู้ เขียนโปรแกรม Arduino ด้วยภาษาซี ตัวอย่างที่ 5 เขียนโปรแกรม Arduino ด้วยภาษาซี ตัวอย่างที่ 6 เขียนโปรแกรม Arduino ด้วยภาษาซี ตัวอย่างที่ 7 เขียนโปรแกรม Arduino ด้วยภาษาซี ตัวอย่างที่ 8 เขียนโปรแกรม Arduino ด้วยภาษาซี ตัวอย่างที่1 เครื่องขยายเสียงคลาสดี(Class D) เบอร์แทน เพาเวอร์ซัพพลาย เพาเวอร์แบงค์บอกค่าความจุจริงหรือเฟค เมนบอร์ด (Motherboard) แนะนำ CPU และ GPU ราคาประหยัด ใช้งานได้ถึงปี 2030 แนะนำ ซีพียู งาน AI ฝั่ง RED Team แนะนำ ซีพียูสาย AI รุ่นท็อปขายดี แอลอีดี(LED) โครงสร้างไมโครคอนโทรลเลอร์ ตระกูล PIC โปรแกรม Arduino ด้วยภาษาซี ตัวอย่างที่ 4 โวลลุ่มคอนโทรลแบบ AAVA ไดโอด ไมโครคอนโทรลเลอร์ ไมโครคอนโทรลเลอร์ในปี 2025 ไอซี ไอซีตั้งเวลา LM555
แสดงเพิ่มเติม

การใช้งาน Arduino Uno ร่วมกับ เซอร์โวมอเตอร์

 ในการใช้งาน arduino uno ร่วมกับ เซอร์โวมอเตอร์ ตัวอย่างนี้จะใช้เอาท์พุตดิจิตอลธรรมดา แต่สัญญาณ PWM จะสร้างขึ้นจากฟังก์ชั่นที่อ้างอิงจากไฟล์ Servo.h และรูปแบบใช้งานคำสั่งก็คือ Servo myservo;   คือ การประกาศฟังก์ชั่น myservo.attach(9); คือ การกำหนดขาเอาท์พุต myservo.write(pos); คือ เขียนข้อมูลออก ในที่นี้ใช้ตัวแปร pos ในการเก็บค่า ต่อวงจรตามภาพ เขียนโปรแกรมดังนี้ #include <Servo.h> Servo myservo;  // ประกาศใช้งานฟังก์ชั่นเซอร์โว จากไฟล์ servo.h int pos = 0;    // กำหนดตัวแปรเก็บค่าตำแหน่งเซอร์โว void setup() {   myservo.attach(9);  // กำหนดขาใช้งานในบอร์ด คือ ขา9 void loop() {   for (pos = 0; pos <= 180; pos += 1) { // ใส่ค่าตำแหน่งเริ่มจาก 0 ถึง 180 องศา โดยเพิ่มค่าทีละ 1 องศา       myservo.write(pos);              // เขียนคำสั่งจากค่าตัวแปรเก็บตำแหน่ง เพื่อส่งค่าออกเอาท์พุต     delay(15);            ...

ฮาร์ดดิสก์ หรือ SSD

 


ในยุคที่ข้อมูลมีค่ามหาศาล อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ได้พัฒนาไปไกลกว่าฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนที่เราคุ้นเคยกันในอดีตมาก ปัจจุบันมีตัวเลือกหลากหลาย ทั้งในด้านเทคโนโลยี ขนาด และความเร็ว ซึ่งแต่ละแบบก็มีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป การเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้คอมพิวเตอร์ของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ประเภทของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลในปัจจุบัน

อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลหลักๆ ที่เราใช้กันอยู่ในคอมพิวเตอร์ทุกวันนี้ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ Hard Disk Drive (HDD) และ Solid State Drive (SSD) โดยมีรายละเอียดดังนี้:


Hard Disk Drive (HDD)

แม้ว่า SSD จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น แต่ HDD ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะในด้านของ ราคาต่อความจุที่คุ้มค่าที่สุด

หลักการทำงาน: HDD เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบกลไก อาศัยการหมุนของจานแม่เหล็ก (platter) และหัวอ่าน/เขียน (read/write head) ที่เคลื่อนที่ไปมาเพื่อบันทึกและดึงข้อมูล

ข้อดี:

  • ราคาถูก: มีราคาต่อกิกะไบต์ที่ถูกกว่า SSD มาก ทำให้เหมาะสำหรับการจัดเก็บข้อมูลปริมาณมหาศาล เช่น ไฟล์มีเดียขนาดใหญ่ หรือข้อมูลสำรอง

  • ความจุสูง: มีความจุให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่หลักเทราไบต์ไปจนถึงหลายสิบเทราไบต์

ข้อจำกัด:

  • ความเร็วต่ำ: เนื่องจากมีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว ทำให้ความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลช้ากว่า SSD อย่างเห็นได้ชัด ส่งผลต่อความเร็วในการบูตเครื่อง เปิดโปรแกรม หรือถ่ายโอนไฟล์ขนาดใหญ่

  • เสียงดังและกินไฟ: การทำงานของจานหมุนอาจมีเสียงดัง และใช้พลังงานมากกว่า SSD

  • เปราะบางต่อแรงกระแทก: ชิ้นส่วนกลไกภายในมีความละเอียดอ่อน ทำให้เสียหายได้ง่ายหากเกิดการตกหล่นหรือกระแทก

เหมาะสำหรับ: การจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากที่ไม่จำเป็นต้องเข้าถึงบ่อยนัก เช่น ไฟล์สำรอง, คลังรูปภาพ/วิดีโอ, หรือใช้เป็นไดรฟ์สำหรับเก็บข้อมูลเสริมในคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ


Solid State Drive (SSD)

SSD คือเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแห่งอนาคตที่เข้ามาปฏิวัติความเร็วของคอมพิวเตอร์ได้อย่างแท้จริง โดยใช้ NAND Flash Memory ในการเก็บข้อมูล แทนการใช้จานหมุน ทำให้ไม่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว

ข้อดี:

  • ความเร็วสูงมาก: เป็นจุดเด่นที่สำคัญที่สุด SSD มีความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลสูงกว่า HDD หลายเท่าตัว ทำให้การบูตเครื่อง เปิดโปรแกรม โหลดเกม และการถ่ายโอนไฟล์รวดเร็วทันใจอย่างเห็นได้ชัด

  • ทนทาน: เนื่องจากไม่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว ทำให้ทนทานต่อแรงกระแทกและการสั่นสะเทือนได้ดีกว่า HDD มาก ลดความเสี่ยงในการสูญหายของข้อมูล

  • ไร้เสียงและประหยัดพลังงาน: ทำงานเงียบสนิท และใช้พลังงานน้อยกว่า HDD ทำให้ช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ในแล็ปท็อป

  • ขนาดเล็กและเบา: มีขนาดที่หลากหลายและมักจะเล็กกว่า HDD ทำให้เหมาะสำหรับอุปกรณ์พกพาและคอมพิวเตอร์ที่ต้องการความบางเบา

ข้อจำกัด:

  • ราคาสูง: ราคาต่อกิกะไบต์ของ SSD ยังคงสูงกว่า HDD โดยเฉพาะในความจุที่เท่ากัน

  • อายุการใช้งานจำกัด: แม้จะทนทาน แต่เซลล์หน่วยความจำของ NAND Flash มีจำนวนรอบการเขียนข้อมูลจำกัด อย่างไรก็ตาม ในการใช้งานทั่วไป อายุก็ยังยาวนานเพียงพอสำหรับผู้ใช้ส่วนใหญ่

ประเภทของ SSD:

SSD ก็มีหลายฟอร์มแฟคเตอร์และอินเทอร์เฟซที่แตกต่างกันไป:

  1. SSD 2.5 นิ้ว (SATA): มีขนาดเท่ากับ HDD โน้ตบุ๊กทั่วไป และเชื่อมต่อด้วยสาย SATA ความเร็วสูงสุดจะถูกจำกัดที่ประมาณ 550 MB/s เหมาะสำหรับอัปเกรดคอมพิวเตอร์เครื่องเก่าที่รองรับ SATA

  2. SSD M.2 (SATA): มีขนาดเล็กคล้ายแผ่นแรม เสียบเข้ากับสล็อต M.2 โดยตรง แต่ยังคงใช้โปรโตคอล SATA ทำให้ความเร็วเท่ากับ SSD 2.5 นิ้ว SATA

  3. SSD M.2 (NVMe/PCIe): นี่คือ SSD ที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุด โดยเชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เฟซ PCIe และใช้โปรโตคอล NVMe ทำให้สามารถทำความเร็วได้สูงถึงหลายพัน MB/s ซึ่งเร็วกว่า SATA หลายเท่าตัว เหมาะสำหรับเกมเมอร์ มืออาชีพ หรือผู้ที่ต้องการความเร็วสูงสุด

เหมาะสำหรับ: การเป็นไดรฟ์หลัก (OS Drive) สำหรับติดตั้งระบบปฏิบัติการและโปรแกรมต่างๆ เพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้อย่างลื่นไหล, การเล่นเกมที่ต้องการโหลดเร็ว, หรืองานที่ต้องประมวลผลข้อมูลจำนวนมากอย่างรวดเร็ว


เลือกใช้อะไรดี?

การตัดสินใจว่าจะใช้อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบใด ขึ้นอยู่กับ งบประมาณ และ ลักษณะการใช้งาน ของคุณ:

  • เน้นความเร็วสูงสุดและประสิทธิภาพโดยรวม: เลือก SSD M.2 NVMe เป็นไดรฟ์หลักสำหรับระบบปฏิบัติการและโปรแกรมสำคัญ

  • ต้องการความเร็วที่ดีในงบประมาณที่จำกัด: เลือก SSD 2.5 นิ้ว SATA หรือ SSD M.2 SATA

  • ต้องการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลจำนวนมากในราคาประหยัด: ใช้ HDD เป็นไดรฟ์เสริมสำหรับเก็บไฟล์ขนาดใหญ่ที่ไม่ต้องเข้าถึงบ่อย

สำหรับผู้ใช้ส่วนใหญ่ การผสมผสานระหว่าง SSD สำหรับระบบปฏิบัติการและโปรแกรมหลัก ควบคู่ไปกับ HDD สำหรับเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ (หรือใช้ SSD ขนาดใหญ่เพียงอย่างเดียวหากงบประมาณเอื้ออำนวย) ถือเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและให้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในปัจจุบัน

การทำความเข้าใจความแตกต่างของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแต่ละประเภทจะช่วยให้คุณสามารถเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสม และยกระดับประสบการณ์การใช้งานคอมพิวเตอร์ของคุณให้ดียิ่งขึ้นครับ.

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คลาสต่างๆของวงจรขยายเสียง

เฟต(FET)

การเปลี่ยนฐานของระบบเลข