ความน่าสนใจของ CPU INTEL ในปี 2025 มีอะไรบ้าง

ในปี 2025ในปี 2025 Intel ยังคงมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตชิป (process node) และสถาปัตยกรรมคอร์ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพต่อวัตต์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการผลักดัน AI PC ให้เป็นจริงมากขึ้น โดยจะเห็นได้จากซีพียูในตระกูล Intel Core Ultra Series 2 ที่เปิดตัวไปแล้วในช่วงต้นปี และซีพียูที่จะทยอยเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2025

ซีพียูหลักที่คาดว่าจะเปิดตัว/มีบทบาทสำคัญในปี 2025:

  • Intel Core Ultra Series 2 (Arrow Lake / Arrow Lake Refresh):



    • Arrow Lake ถือเป็นซีพียู Core Ultra รุ่นถัดไปจาก Meteor Lake โดยเน้นการใช้สถาปัตยกรรมแบบ Tile-based (หรือ Chiplet) เช่นเดิม โดยมีส่วนประมวลผลหลัก (CPU Tile) ที่ผลิตบนกระบวนการผลิต Intel 20A หรือ 18A (ซึ่งเป็นเทคโนโลยี Angstrom-class ที่ก้าวหน้าที่สุดของ Intel) และส่วนกราฟิก (GPU Tile) ที่อาจผลิตโดย TSMC (เช่น 3nm หรือ 2nm)

    • Arrow Lake Refresh คาดว่าจะมีการปรับปรุงเล็กน้อยจาก Arrow Lake เดิม โดยจะเน้นการเพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกาเล็กน้อย และที่สำคัญคือการรองรับ NPU4 (Neural Processing Unit) ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อรองรับฟีเจอร์ AI ใน Windows 11 (Copilot+) ได้อย่างเต็มที่

    • การใช้งาน: ทั้ง Arrow Lake และ Arrow Lake Refresh จะมีทั้งสำหรับเดสก์ท็อปและโน้ตบุ๊ก โดยเฉพาะซีรีส์ H และ HX สำหรับโน้ตบุ๊กประสิทธิภาพสูง และ U series สำหรับโน้ตบุ๊กที่เน้นการประหยัดพลังงาน

  • Panther Lake (Core Ultra 300 Series):

    • เป็นซีพียูรุ่นถัดจาก Arrow Lake คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2025

    • จะใช้กระบวนการผลิต Intel 18A (ซึ่ง Intel ตั้งเป้าว่าจะกลับมาเป็นผู้นำด้านประสิทธิภาพต่อวัตต์ในปีนี้) สำหรับ CPU tiles

    • GPU tiles อาจยังคงผลิตโดย TSMC (3nm หรือ 2nm)

    • มี P-cores ที่อัปเกรดเป็นสถาปัตยกรรม Cougar Cove และ E-cores เป็น Darkmont

    • GPU ภายในจะใช้สถาปัตยกรรม 3rd Gen Xe (Celestial) ซึ่งคาดว่าจะมีการพัฒนาประสิทธิภาพด้านกราฟิกอย่างก้าวกระโดด

    • การใช้งาน: มีแนวโน้มว่าจะเน้นไปที่ตลาดโน้ตบุ๊กก่อน โดยอาจเป็นส่วนหนึ่งของ Core Ultra 300 Series

คุณสมบัติพิเศษที่น่าสนใจของ CPU Intel ในปี 2025:

  1. AI PC และ NPU ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น:

    • นี่คือจุดเด่นที่สำคัญที่สุดของซีพียู Intel ในปี 2025 โดยเฉพาะในตระกูล Core Ultra ที่มาพร้อมกับ NPU (Neural Processing Unit) ซึ่งเป็นหน่วยประมวลผลเฉพาะสำหรับงาน AI

    • คุณสมบัติ:

      • ประสิทธิภาพ AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด: สามารถทำงานที่เกี่ยวข้องกับ AI ได้เร็วกว่าเดิมหลายเท่าตัว (Intel เคลมว่าสูงสุด 3.3 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า)

      • รองรับ Copilot+ และฟีเจอร์ AI ของ Windows 11 เต็มรูปแบบ: เช่น การสร้างภาพ, การสรุปเนื้อหา, การแปลภาษาแบบเรียลไทม์ และฟีเจอร์อื่นๆ ที่ต้องอาศัยการประมวลผล AI อย่างหนัก

      • ประหยัดพลังงานในการทำงาน AI: เนื่องจาก NPU ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ ทำให้สามารถทำงาน AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงแต่ใช้พลังงานต่ำกว่าการประมวลผลบน CPU หรือ GPU ทั่วไป

  2. กระบวนการผลิตที่ก้าวหน้า (Intel 18A / 20A):

    • Intel กำลังเร่งพัฒนาและนำกระบวนการผลิตที่ล้ำสมัยอย่าง Intel 20A (20 Angstrom) และ 18A (18 Angstrom) มาใช้ 

      18A

    • คุณสมบัติ:

      • ประสิทธิภาพต่อวัตต์ที่ดีขึ้น: ช่วยให้ซีพียูทำงานได้เร็วขึ้นแต่ใช้พลังงานน้อยลง ส่งผลให้แบตเตอรี่โน้ตบุ๊กใช้งานได้ยาวนานขึ้น และลดความร้อนในเดสก์ท็อป

      • เทคโนโลยี RibbonFET และ PowerVia: เป็นเทคโนโลยีทรานซิสเตอร์แบบใหม่และระบบจ่ายไฟที่อยู่ด้านหลังของแผงวงจร ซึ่งช่วยให้ทรานซิสเตอร์มีขนาดเล็กลง ประหยัดพื้นที่ และส่งกระแสไฟฟ้าได้ดีขึ้น

  3. สถาปัตยกรรมแบบ Hybrid (P-cores + E-cores + LP E-cores):

    • Intel ยังคงใช้สถาปัตยกรรม Hybrid ที่รวม Performance-cores (P-cores) สำหรับงานหนัก, Efficiency-cores (E-cores) สำหรับงานทั่วไปที่ประหยัดพลังงาน และอาจมี Low Power E-cores (LP E-cores) สำหรับงานพื้นฐานที่ใช้พลังงานน้อยที่สุด

    • คุณสมบัติ:

      • Multi-threading ที่ดีขึ้น: ช่วยให้การทำงานหลายอย่างพร้อมกันเป็นไปอย่างราบรื่น

      • การจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ: ระบบจะจัดสรรงานไปยังคอร์ที่เหมาะสมที่สุด เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดและการใช้พลังงานที่เหมาะสม

  4. กราฟิกในตัว (Integrated Graphics) ที่ทรงพลังขึ้น:

    • ซีพียู Intel Core Ultra จะมาพร้อมกับกราฟิกในตัวที่ใช้สถาปัตยกรรม Intel Arc Graphics (Xe LPG / Celestial) ที่ได้รับการปรับปรุง

    • คุณสมบัติ:

      • ประสิทธิภาพการเล่นเกมที่ดีขึ้น: สามารถรองรับการเล่นเกมที่ต้องการกราฟิกได้ดีขึ้น (โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับกราฟิกในตัวรุ่นก่อนๆ)

      • การเร่งความเร็ว AI สำหรับกราฟิก: มี XMX (Xe Matrix Extensions) สำหรับการเร่งความเร็ว AI ในงานกราฟิก เช่น การประมวลผลวิดีโอ หรือการใช้เทคโนโลยี AI เพื่อเพิ่มเฟรมเรตในเกม (เช่น DLSS Frame Gen ของ Nvidia)

สรุป:

ในปี 2025 ซีพียู Intel จะเน้นไปที่การปฏิวัติประสบการณ์ผู้ใช้ด้วยพลังของ AI ผ่าน NPU ที่ทรงประสิทธิภาพ การปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อประสิทธิภาพต่อวัตต์ที่ดีขึ้น และการพัฒนากราฟิกในตัวให้สามารถทำงานได้หลากหลายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังมองหาคอมพิวเตอร์ที่พร้อมสำหรับยุค AI PC ซีพียู Intel รุ่นใหม่เหล่านี้จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งครับ