ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

อินเวอร์เตอร์ที่ใช้ในระบบโซลาร์เซลล์

 ในระบบโซลาร์เซลล์ อินเวอร์เตอร์ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่มีหน้าที่แปลงกระแสไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ที่ผลิตได้จากแผงโซลาร์เซลล์ ให้เป็นกระแสไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ที่สามารถนำไปใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน หรือส่งกลับเข้าสู่โครงข่ายของการไฟฟ้าได้ อินเวอร์เตอร์ที่ใช้ในระบบโซลาร์เซลล์สามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและขนาดของระบบ

อินเวอร์เตอร์ที่ใช้ในระบบโซลาร์เซลล์มีกี่แบบ?

อินเวอร์เตอร์ที่ใช้ในระบบโซลาร์เซลล์สามารถแบ่งออกเป็นประเภทหลักๆ ได้ดังนี้:

1. Grid-Tied Inverter (String Inverter)



  • การใช้งาน: เป็นอินเวอร์เตอร์ที่ใช้ในระบบโซลาร์เซลล์แบบ On-Grid หรือ Grid-Tied System ซึ่งเป็นระบบที่เชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้า

  • หลักการทำงาน: รับกระแสไฟฟ้า DC จากแผงโซลาร์เซลล์หลายๆ แผงที่ต่อกันเป็นสตริง (String) และแปลงเป็นกระแสไฟฟ้า AC ที่มีคุณภาพและเฟสตรงกับไฟฟ้าของการไฟฟ้า เพื่อนำไปใช้งานหรือส่งคืนเข้าโครงข่าย

  • ข้อดี:

    • ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพ

    • ติดตั้งและบำรุงรักษาค่อนข้างง่าย

    • มีประสิทธิภาพสูงในการแปลงพลังงาน

  • ข้อเสีย:

    • หากมีแผงใดแผงหนึ่งในสตริงถูกบังแดดหรือเสียหาย ประสิทธิภาพของสตริงนั้นจะลดลงทั้งหมด

    • ไม่สามารถทำงานได้เมื่อไฟฟ้าจากการไฟฟ้าดับ (Anti-Islanding Protection)

  • เหมาะสำหรับ: บ้านเรือน, อาคารพาณิชย์, โรงงาน ที่ต้องการลดค่าไฟฟ้าและเชื่อมต่อกับระบบโครงข่ายของการไฟฟ้า

2. Off-Grid Inverter



  • การใช้งาน: ใช้ในระบบโซลาร์เซลล์แบบ Off-Grid หรือ Stand-Alone System ซึ่งเป็นระบบที่ไม่เชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้า

  • หลักการทำงาน: รับกระแสไฟฟ้า DC จากแบตเตอรี่ (ซึ่งได้รับการชาร์จมาจากแผงโซลาร์เซลล์ผ่าน Charge Controller) และแปลงเป็นกระแสไฟฟ้า AC เพื่อจ่ายไฟให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านโดยตรง ระบบนี้ไม่มีการเชื่อมต่อหรือส่งไฟฟ้าคืนให้กับการไฟฟ้า

  • ข้อดี:

    • ให้อิสระด้านพลังงาน ไม่ต้องพึ่งพาไฟฟ้าจากการไฟฟ้า

    • เหมาะสำหรับพื้นที่ห่างไกลที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึงหรือไม่เสถียร

  • ข้อเสีย:

    • ราคาแพงกว่า เนื่องจากต้องออกแบบมาเพื่อทำงานร่วมกับแบตเตอรี่และมีวงจรควบคุมที่ซับซ้อนกว่า

    • ประสิทธิภาพการแปลงพลังงานอาจต่ำกว่า Grid-Tied Inverter เล็กน้อย เนื่องจากมีขั้นตอนการแปลงและสูญเสียในแบตเตอรี่

    • ต้องมีแบตเตอรี่สำรอง ซึ่งมีราคาสูงและต้องการการบำรุงรักษา

  • เหมาะสำหรับ: บ้านพักตากอากาศ, ไร่สวน, รีสอร์ทในพื้นที่ห่างไกล หรือการใช้งานที่ต้องการความเป็นอิสระด้านพลังงานสูง

3. Hybrid Inverter (Grid-Tied with Battery Backup)



  • การใช้งาน: เป็นอินเวอร์เตอร์ที่รวมเอาคุณสมบัติของ Grid-Tied Inverter และ Off-Grid Inverter เข้าไว้ด้วยกัน สามารถเชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟฟ้าและทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ได้

  • หลักการทำงาน: สามารถชาร์จแบตเตอรี่จากแผงโซลาร์เซลล์และ/หรือจากการไฟฟ้าได้ เมื่อไฟฟ้าจากการไฟฟ้าดับ ระบบสามารถดึงพลังงานจากแบตเตอรี่มาจ่ายให้โหลดที่จำเป็นได้โดยอัตโนมัติ และเมื่อไฟฟ้ามาก็จะกลับไปทำงานแบบ On-Grid

  • ข้อดี:

    • มีไฟฟ้าใช้แม้ไฟฟ้าจากการไฟฟ้าดับ

    • สามารถจัดการพลังงานได้อย่างยืดหยุ่น (เช่น ชาร์จแบตเตอรี่ช่วงค่าไฟถูก และใช้ไฟจากแบตเตอรี่ช่วงค่าไฟแพง)

    • ลดการพึ่งพาไฟฟ้าจากการไฟฟ้า

  • ข้อเสีย:

    • ราคาสูงที่สุดเมื่อเทียบกับอินเวอร์เตอร์ประเภทอื่น

    • การติดตั้งและการตั้งค่าซับซ้อนกว่า

  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการความมั่นคงทางพลังงาน มีไฟฟ้าใช้ตลอดเวลา และต้องการลดค่าไฟฟ้าไปพร้อมกัน

4. Microinverter



  • การใช้งาน: ใช้ในระบบโซลาร์เซลล์แบบ On-Grid โดยติดตั้งอินเวอร์เตอร์ขนาดเล็กหนึ่งตัวต่อแผงโซลาร์เซลล์หนึ่งแผง

  • หลักการทำงาน: แผงโซลาร์เซลล์แต่ละแผงจะผลิตไฟฟ้า DC และ Microinverter ที่ติดตั้งอยู่ด้านหลังแผงนั้นๆ จะแปลงเป็นไฟฟ้า AC ทันที ก่อนที่จะรวมกันแล้วส่งเข้าสู่ระบบไฟฟ้าในบ้านหรือโครงข่าย

  • ข้อดี:

    • ประสิทธิภาพของแต่ละแผงเป็นอิสระต่อกัน (หากมีแผงใดแผงหนึ่งถูกบังแดดหรือเสียหาย จะไม่กระทบต่อประสิทธิภาพของแผงอื่น)

    • ติดตั้งง่ายและขยายระบบได้ง่าย

    • ความปลอดภัยสูงกว่า เพราะลดการเดินสายไฟ DC แรงสูง

    • สามารถมอนิเตอร์ประสิทธิภาพของแต่ละแผงได้

  • ข้อเสีย:

    • ต้นทุนเริ่มต้นสูงกว่า String Inverter (เนื่องจากต้องใช้อินเวอร์เตอร์หลายตัว)

    • การบำรุงรักษาอาจยุ่งยากกว่าหาก Microinverter เสียหาย (ต้องขึ้นไปบนหลังคา)

  • เหมาะสำหรับ: ระบบที่มีแผงโซลาร์เซลล์อาจถูกบังแดดบางส่วน, พื้นที่หลังคาที่มีข้อจำกัด หรือผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดและการมอนิเตอร์ระดับแผง

5. Power Optimizer



  • การใช้งาน: ไม่ใช่อินเวอร์เตอร์ในตัวเอง แต่เป็นอุปกรณ์ที่ทำงานร่วมกับ String Inverter ในระบบ On-Grid เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

  • หลักการทำงาน: ติดตั้งอยู่ใต้แผงโซลาร์เซลล์แต่ละแผง คล้ายกับ Microinverter แต่ไม่ได้แปลง DC เป็น AC โดยตรง Power Optimizer จะทำหน้าที่ปรับจุดกำลังไฟฟ้าสูงสุด (MPPT) ของแต่ละแผงให้เหมาะสมที่สุด ก่อนที่จะส่งไฟฟ้า DC ไปยัง String Inverter ที่ส่วนกลาง เพื่อแปลงเป็น AC อีกที

  • ข้อดี:

    • เพิ่มประสิทธิภาพของระบบ โดยเฉพาะในกรณีที่มีเงาบังแผง

    • ช่วยให้สามารถมอนิเตอร์ประสิทธิภาพของแต่ละแผงได้

    • ต้นทุนต่ำกว่า Microinverter แต่ให้ประโยชน์คล้ายกัน

  • ข้อเสีย:

    • ยังคงต้องมี String Inverter

    • การติดตั้งซับซ้อนกว่า String Inverter เดี่ยวๆ

  • เหมาะสำหรับ: ระบบ On-Grid ที่มีปัญหาเรื่องเงาบังแผง หรือต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าระดับแผง โดยที่ยังต้องการใช้ String Inverter


โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คลาสต่างๆของวงจรขยายเสียง

การขยายสัญญาณเสียงให้มีความดังมากขึ้น ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในวงขยายเสียง และจะต้องนำไปใช้ในการขยายสัญญาณเสียงจากแหล่งกำเนิดต่างกัน ต้องการความดังสัญญาณต่างกันทำให้การจัดวงจรขยายสัญญาณเสียง หรือจัดคลาสของการขยายต่อกัน เพื่อให้เกิดความเหมาะสมในการนำไปใช้งาน และทำให้สัญญาณเสียงที่ได้ออกมามีความชัดเจนไม่ผิดเพี้ยน หรือมีความดังตามต้องการ การจัดคลาสการขยายจัดได้ตามการกำหนดจุดทำงานของวงจรขยาย แบ่งได้เป็น 4 แบบดังนี้ 1.คลาส-เอ(CLASS A) 2.คลาส-บี(CLASS B) 3.คลาส-เอบี(CLASS AB) 4.คลาส-ซี(CLASS C) การจัดวงจรขยายแต่ละคลาสมีจุดทำงานต่างกัน มีลักษณะการทำงานต่างกัน การใช้งานจะต้องเลือกคลาสการขยายให้เหมาะสมถูกต้อง จึงจะทำให้ขยายสมบูรณ์ และมีประสิทธฺภาพสูง วงจรขยายคลาส-เอ(CLASS-A AMPLIFIER) วงจรขยายคลาส-เอ เป็นวงจรขยายที่มีจุดการทำงานอยู่ในช่วงที่เรียกว่า แอกทีฟ คือ ช่วงการทำงานของทรานซิสเตอร์ที่เป็นลิเนียร์ หรือหากเปรียบเทียบก็เหมือนเครื่องยนต์ที่ทำการเร่งเครื่องพร้อมจะรับงานหนักๆได้อยู่ตลอดเวลา วงจรของขยายคลาสเอ จะมีกระแสสงบไหลตลอดเวลาเพื่อให้จุดของการทำงานมีช่วงสวิงของสัญญาณเอาท์พุตไม่ต่ำ...

ตัวต้านทานปรับค่าได้(Variable Resistor)

ตัวต้านทานปรับค่าได้(Variable Resistor) ตัวต้านทานปรับค่าได้มีหลายแบบด้วยกัน เช่น แบบหมุนแกน แบบปรับแท็ป แบบทริม และรีโอสตัด                                    รูปที่ 1.สัญลักษณ์ตัวต้านทานปรับค่าได้เมื่อเทียบกับของจริง แบบหมุนแกน(Potentiometer) ตัวต้านทานปรับค่าได้หรือที่เราเรียกกันทั่วไปว่าโวลลุ่ม(volume) ที่เรียกเช่นนี้ก็เพราะว่าส่วนใหญ่พบเจอในเครื่องขยายเสียงแล้วเรียกกันจนติดปาก ความจริงมีให้เห็นกันมากมาย ไม่เฉพาะในเครื่องขยายเสียง เครื่องมือวัดก็ใช้กัน โทรทัศน์รุ่นเก่าๆ เครื่องคุมแสง สี เครื่องจ่ายไฟสำหรับห้องทดลอง เป็นต้น                                                 รูปที่...

เฟต(FET)

เฟต(FET) เฟทมาจากคำว่า Field Effect Transistor เป็นอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำชนิดหนึ่งคล้ายทรานซิสเตอร์ แต่คุณสมบัติอันพิเศษกว่าทรานซิสเตอร์จึงมีประโยชน์ในด้านการใช้งานนั้นมาก และถูกนำมาใช้งานอย่างกว้างขวาง รูปร่างภายนอกนั้นเหมือนทรานซิสเตอร์ทุกประการ แต่จะแตกต่างกันตรงเบอร์ใช้งานและคุณสมบัติอันพิเศษกว่าทรานซิสเตอร์นั่นเอง                                                                       รูปที่1 ความพิเศษของมันคือ มีค่าอิมพิแดนซ์ทางด้านอินพุตสูงมาก (ทรานซิสเตอร์มีอิมพิแดนซ์ต่ำ) อัตราการทนแรงดันและกระแส สูง และสำหรับเฟทแล้ว การทำงานจะใช้สนามไฟฟ้าควบคุม (ทรานซิสเตอร์ใช้กระแส) เป็นที่มาของคำว่า Field Effect Transistor มีสองแบบด้วยกันคือ แบบพีแชลแน...