ซีดีทรานสปอร์ต(CD TRANSPORT)สำหรับนักเล่นเครื่องเสียงหน้าใหม่ อาจสงสัยว่าเครื่องเล่นซีดีเพลเยอร์(CD PLAYER)กับเครื่องเล่นซีดีที่เรียกว่า ซีดีทรานสปอร์ต(CD TRANSPORT)นั้น
มันแตกต่างกันอย่างไร และดีอย่างไร
ผู้เขียนจึงอยากยกเรื่องขึ้นมาเขียนเพื่อให้เข้าใจอย่างคร่าวๆเป็นพื้นฐาน
สำหรับผู้ที่จะก้าวไปสู่การเป็นนักเล่นเครื่องเสียงอย่างเต็มตัว
เผื่อว่าบางท่านอาจอยากหันไปเล่นเครื่องเล่นซีดีประเภทนี้ก็เป็นได้
ในวงการเครื่องเสียงไฮเอนด์แล้ว
เหตุผลที่เกิดสิ่งแปลกใหม่ขึ้นมาก็มีสองเหตุผลหลักก็คือ เหตุผลทางการตลาด
และ เพื่อต้องการยกระดับคุณภาพของเสียงที่ได้ นั่นเอง
นักออกแบบเครื่องเสียงต่างก็พยายามพัฒนาเครื่องเสียงที่ดีออกสู่ตลาด
เหตุผลอย่างหนึ่งที่มักนำมาใช้อย่างเป็นรูปธรรมก็คือ
การแยกภาคออกมาเพื่อพัฒนาคุณภาพนั่นเอง
คุณอาจเคยได้ยินประโยคหนึ่งมา
กล่าวไว้ว่า "ในเวลาเดียวกัน
คนหนึ่งคนทำงานหนึ่งชิ้นจะได้ประสิทธิภาพและคุณภาพที่ดีกว่า
คนหนึ่งคนทำงานหลายๆชิ้นในเวลาเดียวกัน "
ในหลักการของเครื่องเสียงก็เช่นกัน หากรวมการทำงาน
หรือคุณสมบัติหลายๆอย่างไว้ในตัวเดียวกัน
มันก็อาจให้ประสิทธิภาพและคุณภาพได้ไม่ถึงขั้นสุดยอดนั่นเอง
จึงเป็นหนึ่งในหลายเหตุผลที่มาของ ซีดีทรานสปอร์ต(CD TRANSPORT)
โดยปกติแล้ว เครื่องเล่นซีดีในท้องตลาดทั่วไปที่พบเห็น
เมื่อนำมาใช้งาน
เราสามารถนำมาเล่นแผ่นและต่อเสียงเข้าเครื่องขยายเสียงหรือหูฟัง
เพื่อฟังเสียงได้เลย ทั้งนี้
เพราะเครื่องเล่นนั้นได้มีกระบวนการทางรูปสัญญาณตั้งแต่ต้นจนจบนั่นเอง
ในที่นี้หมายถึง กระบวนการแปลงสัญญาณแสงที่ได้จากการอ่านของหัวอ่านซีดี
ให้อยู่ในรูปของสัญญาณดิจิตอลหรือข้อมูลของสัญญาณเสียงแบบดิจิตอลแล้ว
ก็นำสัญญาณดิจิตอลนั้นไปเปลี่ยนกลับเป็นสัญญาณที่เหมือนกับสัญญาณต้นทางก่อน
บันทึกลงแผ่นนั่นเอง นั่นก็คือสัญญาณเสียง
ส่วนซีดีทรานสปอร์ต(CD TRANSPORT)
จะมีลักษณะที่แตกต่างจากเครื่องเล่นซีดีทั่วไปคือ ไม่มีกระบวนการแปลงกลับ
แต่จะนำสัญญาณดิจิตอลที่ได้จากการอ่านแผ่นส่งออกทางขาออกไปเลย หรือ
อาจจะนำไปผ่านกระบวนการทางดิจิตอลเพื่อเพิ่มลูกเล่นหรือประสิทธิภาพก่อนส่ง
ออกก็ได้
ในทางโครงสร้างในอดีตรูปร่างจะเป็นการใส่แผ่นด้านบนและการขับแผ่นด้วยระบบ
สายพาน แต่ในปัจจุบันการขับแผ่นเปลี่ยนมาเป็นแบบมอเตอร์แล้ว
ภาคแปลงกลับถูกตัดออกเพื่ออะไร แล้วจะฟังเสียงได้อย่างไร?
ใน
การตัดภาคแปลงสัญญาณดิจิตอลเป็นอะนาล็อคออกไปก็เพื่อต้องการให้ผู้ใช้สามารถ
เลือกได้ว่า ต้องการแปลงกลับด้วยระบบแปลงที่หลากหลาย และมีคุณภาพแบบไหน
ตามที่ผู้ผลิตได้สร้างสรรค์ไว้ในท้องลาด เราเรียกตัวแปลงกลับนี้ว่า DAC(Digital to Analog Converter) มันทำหน้าที่แปลงสัญญาณดิจิตอลให้เป็นสัญญาณอะนาล็อค ในการต่อใช้งานผู้ใช้สามารถเลือกหา ยี่ห้อ ราคา และคุณภาพได้ตามความเหมาะสมของตนเอง สัญญาณที่ส่งออกจะอยู่ในรูปแบบการต่อเป็น S-PDIF , Optical , Coaxial เป็นต้น
ทั้งนี้ทั้งนั้น ในการจัดชุด การเลือกคุณภาพของ DAC ก็เป็นตัวแปรของคุณภาพเสียง หากเลือกไม่ดีแล้วเสียงที่ได้ก็อาจแย่กว่าเครื่องเล่นซีดีทั่วไปก็เป็นได้ ดังนั้นในการจัดชุด CD Transport + Signal Cable + DAC ก็ต้องสุดยอดด้วยกันทั้งชุดนั่นเองครับ
แต่..ทางเลือกใหม่ในปัจจุบันในเรื่องของเครื่องเสียง ก็หลากหลายขึ้น Computer ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่มาเกี่ยวข้องกับเครื่องเสียงแล้ว บางคนไม่ใช้ ซีดีทรานสปอร์ต แต่หันมาใช้ Computer แทนซีดีทรานสปอร์ต แล้วนำสัญญาณขาออกที่เป็น S-PDIF หรือ Optical ไปต่อเข้ากับ DAC แล้วต่อจาก DAC เข้าเครื่องขยายเสียง มันก็ใช้ได้เหมือนกันครับ อีกอย่างเครื่องเล่นซีดี ดีวิดี สมัยนี้ ก็มีช่องต่อแบบ Optical มากขึ้นแล้ว ดังนั้น ซีดีทรานสปอร์ต
จึงเป็นทางเลือกสำหรับนักเล่นหูทองจริงๆ
และมีทุนทรัพย์ที่มากพอที่จะทำให้เสียงได้คุณภาพถึงขั้นสุดยอด
ส่วนนักเล่นระดับมิดไฟ ถึงไฮไฟ ก็อาจเลือกรูปแบบอย่างที่กล่าวมานั่นเองครับ
บทความยอดนิยม
-
การขยายสัญญาณเสียงให้มีความดังมากขึ้น ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในวงขยายเสียง และจะต้องนำไปใช้ในการขยายสัญญาณเสียงจากแหล่งกำเนิดต่างกัน ต้องการความ...
-
ตัวต้านทานปรับค่าได้(Variable Resistor) ตัวต้านทานปรับค่าได้มีหลายแบบด้วยกัน เช่น แบบหมุนแกน แบบปรับแท็ป แบบทริม และรีโอสตัด ...
-
การทำงานของเครื่องขยายเสียงนั้นโดยทั่วไปแล้ว สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ 1.ภาคขยายสัญญาณเบื้องต้น 2.ภาคปรับแต่งสัญญาณ 3.ภาคขยายกำล...
วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2554
ซีดีทรานสปอร์ต(CD TRANSPORT)
ป้ายกำกับ:
เครื่องเล่นซีดี,
เครื่องเสียงไฮเอนด์,
ซีดีทรานสปอร์ต,
cd transport,
dac,
digital to analog converter